การเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศโดยไม่มีอินเทอร์เน็ตถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะเมื่อเราต้องการไปที่ไหนก็จะรู้สึกว่ามันยากและไม่สะดวกเลยทีเดียว การติดต่อสื่อสารกับคนท้องถิ่นก็จะเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น ญี่ปุ่น การมีอินเทอร์เน็ตไว้ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ก็จะทำให้เรารู้สึกอุ่นใจและมั่นใจมากขึ้นในการเดินทาง
ดังนั้นในวันนี้เราจะมาทำการเปรียบเทียบ Pocket Wi-Fi กันอย่างละเอียดและชัดเจน เพื่อให้เห็นถึงคุณสมบัติของแต่ละรุ่นว่าเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งจะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อซิมการ์ดที่เหมาะสมกับการเดินทางของคุณได้ โดยจะมีข้อมูลที่จะทำให้ชาวโซเชียลเข้าใจและเลือกได้อย่างถูกต้องและถูกใจที่สุด
เราจะพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเร็วในการเชื่อมต่อ จำนวนข้อมูลที่ให้บริการ ราคา และความสะดวกสบายในการใช้งาน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือก Pocket Wi-Fi หรือซิมการ์ดที่เหมาะกับทริปของคุณ
เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ Pocket Wi-Fi ในญี่ปุ่น
ข้อดีของการใช้ Pocket Wi-Fi ในญี่ปุ่น
- เน็ตแรง ไม่สะดุด ใช้งานได้ไม่จำกัด
Pocket Wi-Fi ในญี่ปุ่นมีความเร็วในการเชื่อมต่อที่สูงและเสถียร ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บไซต์ ดูวิดีโอ หรือการใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ
- Pocket Wi-Fi เชื่อมต่อง่าย ใช้งานสะดวก
การตั้งค่าและการเชื่อมต่อ Pocket Wi-Fi ทำได้ง่าย เพียงแค่เปิดเครื่องและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณ ทำให้สะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องยุ่งยาก
- ใช้งานได้หลายเครื่องพร้อมกันแบบไม่แย่งอินเทอร์เน็ต
Pocket Wi-Fi สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่องได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้ทุกคนในกลุ่มสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้พร้อมกันโดยไม่มีปัญหาในการแย่งกัน
- ไม่ทำให้เปลืองแบตเตอรี่โทรศัพท์และเครื่องมือที่ใช้เชื่อมต่อ
เนื่องจากการใช้งาน Pocket Wi-Fi แยกจากอุปกรณ์โทรศัพท์ ทำให้โทรศัพท์ของคุณไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ไปกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ได้
- สามารถพกพา Pocket Wi-Fi ไปได้ทุกที่
Pocket Wi-Fi มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในระหว่างการเดินทาง
- ราคาไม่แพงมาก เหมาะกับการใช้หลายคน
ราคาของ Pocket Wi-Fi มักจะไม่สูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อซิมการ์ดสำหรับการใช้งานแบบเดียวกัน และเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่เดินทางร่วมกัน
ข้อเสียของการใช้ Pocket Wi-Fi ในญี่ปุ่น
- ต้องชาร์จแบตเตอรี่ Pocket Wi-Fi ทุกวัน
เนื่องจากการใช้งาน Pocket Wi-Fi มักจะต่อเนื่องเกือบตลอดเวลา ทำให้จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อระหว่างการเดินทาง
- อาจจะมีค่ามัดจำและค่าประกันเครื่อง
บางบริการอาจจะมีค่ามัดจำหรือค่าประกันสำหรับ Pocket Wi-Fi ซึ่งอาจเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่คุณต้องพิจารณา
- ต้องรับและส่งคืน
หลังจากการใช้งานคุณจะต้องนำ Pocket Wi-Fi กลับไปส่งคืน ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียเวลาในช่วงที่ต้องเดินทางไปสนามบินหรือตำแหน่งที่กำหนด
การรับ WiFi เช่า มี 2 แบบ
WiFi เช่าสามารถรับได้ 2 แบบ คือ รับที่ประเทศไทยหรือที่สนามบินในญี่ปุ่น ควรพิจารณาข้อดีของแต่ละแบบและเลือกวิธีที่เหมาะกับสไตล์การเดินทางของคุณ
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเลือกที่จะรับ WiFi ที่ประเทศไทย คุณจะสามารถได้รับเราเตอร์ WiFi ล่วงหน้า ทำให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกตั้งแต่วันแรกของการเดินทาง ในทางกลับกัน ถ้าคุณเลือกที่จะรับ WiFi ที่สนามบินญี่ปุ่น คุณจะสะดวกในการใช้งานอินเทอร์เน็ตทันทีหลังจากที่มาถึง
อย่างไรก็ตาม หากคุณรับที่ญี่ปุ่น ควรพิจารณาเวลาเปิดทำการของจุดรับ WiFi และเวลาเครื่องบินถึงด้วย
ถ้าต้องการรับ WiFi ในประเทศไทย แนะนำ Skyberry!
สำหรับบริการเช่า WiFi ที่สามารถรับได้ในประเทศไทยมีหลายเจ้าที่ให้บริการ แต่ผู้เขียนขอแนะนำ Skyberry ค่ะ
จุดเด่นของ Skyberry คือสามารถเช่า WiFi แบบไม่จำกัดได้ในราคา 1,280 บาทสำหรับ 5 วัน ซึ่งหากแชร์กับเพื่อนหลายคนก็จะคุ้มค่ามาก นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตร JCB ที่ทำให้เช่า WiFi ไม่จำกัดในราคาเพียง 100 บาทต่อวัน ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับ WiFi เจ้าอื่น ๆ
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบได้ในบทความด้านล่างค่ะ
รับ WiFi ที่ญี่ปุ่น สะดวกสุด ๆ กับ KKday!
มีบริการ WiFi ให้รับที่สนามบินในญี่ปุ่นหลายแห่ง แต่การจองผ่าน KKday เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด KKday มีเว็บไซต์ภาษาไทยที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะ ทำให้การสมัครใช้บริการเสร็จสิ้นได้รวดเร็วกว่าเว็บไซต์ภาษาอังกฤษอื่น ๆ
KKday ร่วมมือกับผู้ให้บริการเช่าหมายเลข WiFi ขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น ทำให้คุณสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกสบายในพื้นที่
การรับ WiFi ก็ง่ายดายเพียงแค่แสดงหน้าเว็บการจอง ไม่ต้องมีการสื่อสารภาษาอังกฤษเลย!
เลือกวิธีการสื่อสารที่เหมาะกับสไตล์การเดินทางของคุณ!
ในส่วนที่แล้ว เราได้แนะนำบริการเช่า WiFi สองประเภท แต่ในปัจจุบัน มีผู้ใช้ SIM การ์ดและ eSIM เพิ่มมากขึ้น การเลือกวิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของคุณ เมื่อคุณได้กำหนดวันเดินทางไปญี่ปุ่นแล้ว ควรพิจารณาระยะเวลาและปริมาณข้อมูลที่ต้องการในการใช้งานด้วย เพราะสินค้าที่เหมาะสมที่สุดจะแตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละคน
หากคุณกำลังมองหาวิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ตรวจสอบบทความด้านล่าง ซึ่งจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับตัวเลือกที่มีอยู่ และช่วยให้คุณเลือกวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางของคุณ
การเตรียมตัวล่วงหน้าและการเลือกอุปกรณ์สื่อสารที่เหมาะสมจะทำให้การเดินทางของคุณในญี่ปุ่นราบรื่นและสนุกสนานยิ่งขึ้น!
